ทฤษฎีบุคลิกภาพ
การจัดแบ่งประเภทของทฤษฎีบุคลิกภาพมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ของการจัดอาจรวมเอาทฤษฎีที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ดังต่อไปนี้
1. ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sidmund Freud’s Psychoanalytic Theory) ทฤษฎีของฟรอยด์ จะเน้นเรื่องจิตไร้สำนึกว่าเป็นแรงขับที่สำคัญในการพัฒนาบุคลิกภาพของบุคคล ซึ่งจะได้กล่าวในรายละเอียดในลำดับต่อไป
ประวัติของซิกมันด์ ฟรอยด์ (ค.ศ. 1856 – 1939) ฟรอยด์ เป็นชนชาติยิว ในช่วงวัยเยาว์นั้น เขาอาศัยอยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในปี ค.ศ. 1881 ได้เรียนสำเร็จแพทย์จากมหาวิทยาลัยของเวียนนา ได้ศึกษาค้นคว้าวิจัยและเขียนผลงานเกี่ยวกับประสาทวิทยา ในที่สุดเขาก็ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการรักษาเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบประสาท เขาได้ศึกษาและฝึกงานกับจิตแพทย์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ เจ. เอ็ม. ชาร์คอต (J.M. Charcot) ในการรักษาคนไข้ฮิสทีเรีย (Hysteria)
ในปี ค.ศ. 1894 ฟรอยด์ ได้ประกาศแนวคิดของเขาว่า การรักษาคนไข้โรคประสาทไม่ควรใช้วิธีการสะกดจิตวิธีเดียว น่าจะใช้วิธีเชื่อมโยงอย่างอิสระ (Free Association) โดยให้คนไข้พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่คนไข้คิดออกในขณะนั้นให้มากที่สุด แล้วนำเอามาวิจัยหาสาเหตุที่คนไข้เก็บกด เขาได้ศึกษาเรื่องของจิตวิเคราะห์อยู่นานถึง 10 ปี และในปี ค.ศ. 1908 มีการประชุมจิตแพทย์ขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกว่า International Congress of Psychoanalysis
ในปี ค.ศ. 1918 ฟรอยด์ ได้ย้ายไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 1939 รวมอายุได้ 83 ปีเศษ สำหรับหนังสือของฟรอยด์ที่เขียนไว้มีหลายเล่ม เช่น
- My Interpretation of Dream
- On The Psychical Mechanism of Historical Phenomena
- Three Essays on Sexuality
- Beyond the Pleasure Principle
ฟรอยด์มีความเชื่อว่ามนุษย์มีสัญชาตญาณ (Instinct) 2 อย่างติดตัวมาแต่กำหนด ซึ่งได้แก่
- สัญชาตญาณในการดำรงชีวิต (Life Instinct) คือ สัญชาตญาณในการตอบสนองความต้องการของร่างกาย เช่น ความต้องการอาหารเพื่อบำบัดความหิว ความต้องการทางเพศเพื่อดำรงชาติพันธุ์
- สัญชาตญาณแห่งความตาย (Death Instinct) คือ สัญชาตญาณในการดับสังขารและถึงความตายในที่สุด เช่น กลวิธานการป้องกันตนเอง ได้แก่ การถอยกลับสู่ความเป็นเด็ก (Regression) การกระทำซ้ำซาก (Repetition) นั่นคือ สัญชาตญาณแห่งความตายสัญชาตญาณทั้ง 2 อย่าง ฟรอยด์ ได้กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับหลักแห่งความพอใจ (Principle of Pleasure) เพราะมนุษย์ทุกคนต้องการความสุขกายสบายใจ โดยคำนึงถึงสภาวะความเป็นจริง ซึ่งบางอย่างบุคคลไม่สามารถแสดงออกต้องสะกดกลั้นไว้ จึงทำให้เกิดความขัดแย้งในใจ และก่อให้มีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว
|