พัฒนาการทางบุคลิกภาพ
นักพฤติกรรมนิยมเน้นบทบาทของการเรียนรู้ในการพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาบุคลิกภาพดังต่อไปนี้
1. ศักยภาพที่มีมาแต่กำเนิด (Inborn Potentialities) นับว่าเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ซึ่งอาจจะเป็นผลของพันธุกรรมหรืออิทธิพลต่างๆ ที่มีต่อทารกก่อนคลอด และสิ่งเหล่านี้มีความแตกต่างเบื้องต้นของมนุษย์ที่จะเป็นเงื่อนไขกำหนดทิศทาง และขอบเขตในการพัฒนาบุคลิกภาพในระดับหนึ่ง เช่น รูปทรง ลักษณะหน้าตา ระบบประสาท ความสมบูรณ์หรือพิการของร่างกาย ลักษณะอามรณ์ เป็นต้น ส่วนจะพัฒนาไปอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง ทารกบางคนเกิดมาแข็งแรง มีระบบประสาทที่ว่องไว ในขณะที่ทารกบางคนอ่อนแอขี้โรค มีระบบประสาทเชื่องช้า จะเห็นว่าทารกแรกอาจจะพัฒนาบุคลิกภาพขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ อาจเป็นนักกีฬา และเขาจะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ส่วนคนหลังอาจจะพัฒนาไปในอีกทางหนึ่ง เช่น อาจเป็นคนที่ต้องพึ่งคนอื่นตลอดเวลา หรืออาจหันไปเอาดีทางเขียนหนังสือ เล่นดนตรี แต่หากทารกที่เกิดมาปัญญาอ่อนย่อมไม่สามารถพัฒนาบุคลิกภาพแบบปกติเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไปได้ การที่เด็กเป็นใบ้พูดไม่ได้ก็ย่อมกระทบกระเทือนต่อการพัฒนาบุคลิกภาพได้เหมือนกัน แต่ในทางกลับกัน หากเด็กที่พิการมีความสามารถเท่าหรือมากกว่าเด็กปกติก็ย่อมมีบุคลิกภาพที่ดีได้ เช่น เด็กที่ไม่มีแขนไม่มีขา แต่สามารถใช้เท้าทำงาน หรือเขียนหนังสือแทนมือได้ สามารถช่วยตัวเองได้ ก็จะได้รับการยกย่องชมเชยจากสังคมว่าเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ ซึ่งในเด็กธรรมไม่สามารถทำได้ มีตัวอย่างบุคลิกภาพมากมายหลายคน ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความสามารถทั้งคนไทยและต่างประเทศในยุคปัจจุบัน
2. สิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้ ในช่วงพัฒนาการของทารก ทารกมีประสบการณ์ต่างๆกับสังคม และได้รับสิ่งเร้าที่มากระทบมากมาย ทารกก็ต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ โดยจะต้องรู้ว่า เขาต้องมีบทบาทอะไรบ้างสำหรับฐานะต่างๆ ของเขาในสังคม และเขาต้องเรียนรู้ที่จะแสดงบทบาทของเขาได้อย่างเหมาะสม การเรียนรู้จากสิ่งเร้าและประสบการณ์ต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมย่อมเป็นส่วนสำคัญในการหล่อหลอมบุคลิกภาพของบุคคลว่าเขาจะเป็นคนอย่างไร เขาแสดงพฤติกรรมและมีวิธีปรับตัวอย่างไร เด็กที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี อยู่ในสภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด ประสบกับความอดอยาก ได้ยินแต่เสียงด่าทอทะเลาะเบาะแว้ง พบเห็นแต่ความสกปรกรกรุงรังอยู่ตลอกเวลา ก็ย่อมจะพัฒนาบุคลิกภาพไปในทางที่แตกต่างกับเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ได้รับความรักความห่วงใยจากครอบครัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ย่อมมีบุคลิกภาพที่ดีกว่า และประสบความสำเร็จในชีวิตที่ดี มีประสบการณ์ที่ดีจนบางคนนำไปยึดเป็นแบบอย่างชีวิตได้ ประสบการณ์แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
2.1 ประสบการณ์ร่วมทางวัฒนธรรม หมายถึง ประสบการณ์ที่บุคคลได้รับเหมือนกันหรือในทำนองเดียวกัน อันเป็นผลจากการที่อยู่ในสังคมเดียวกัน ได้แก่ ขนบธรรมเนียมประเพณี ค่านิยม ความเชื่อ ทัศนคติ คำสั่งสอนต่างๆ ของสังคม ตลอดเวลาที่เราเจริญเติบโต เราจะศึกษาและประพฤติตนตามวิถีทางของสังคมที่เห็นว่าถูกต้อง หรือ คาดหวังกับเราโดยที่เราไม่ต้องหาเหตุผล หรือสงสัยในความถูกต้อง และไม่นึกว่าตนในวัฒนธรรมอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย เช่น ประเพณีการไหว้ ความเกรงใจ เป็นต้น บุคคลที่เจริญเติบโตในสังคมต่างกันก็ย่อมมรแผนโครงสร้างหรือแง่มุมของบุคลิกภาพที่แตกต่างกันออกไป เพราะค่านิยมและวิถีการดำเนินชีวิตต่างกัน อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า คนที่อยู่ในวัฒนธรรมเดียวกันจะต้องมีบุคลิกภาพที่เหมือนกัน เพราะการถ่ายทอดทางวัฒนธรรมโดยตัวแทนของสังคมต่างๆ เช่น พ่อแม่ครู อาจารย์ เพื่อน อาจไม่เป็นรูปแบบเดียวกันหรือมีความสามารถในการถ่ายทอดเหมือนกันโดยแท้จริง และในแต่ละสังคมใหญ่ก็จะมีสังคมย่อยๆ อีกมากมาย เช่น สังคมของผู้ร่วมอาชีพเดียวกัน สังคมชาวพุทธ สังคมของผู้หญิง เป็นต้น สังคมย่อยเหล่านี้ ก็จะมีวัฒนธรรมของตนเองมาหล่อหลอมบุคคลที่เป็นสมาชิกด้วย
2.2 การประสบการณ์เฉพาะ เป็นประสบการณ์ที่แต่ละบุคคลได้รับในช่วงของเขา โดยที่คนอื่นอาจไม่มีและย่อมเกี่ยวข้องพัวพันอยู่กับบุคคลที่เราสัมพันธ์ด้วยอย่างใกล้ชิด เด็กที่มีพ่อแม่เข้มงวดมากใช้วิธีการปกครองแบบเผด็จการ ซึ่งมักจะใช้วิธีการลงโทษอย่างรุนแรง เช่น เฆี่ยนตี ไม่ฟังเหตุผล ย่อมมีประสบการณ์ส่วนตัวที่แตกต่างจากเด็กที่พ่อแม่ใจดี มีเหตุผลในการอนุญาตในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะสมตามความสามารถ ให้รางวัลเมื่อถูก และทำโทษเมื่อผิดเด็กคนแรกอาจจะเกิดการมองโลกในแง่ร้าย ไม่ไว้ใจในสังคม จนเกิดพฤติกรรมที่ต่อต้านสังคม ส่วนเด็กคนหลังอาจจะเติบโตขึ้นมาอย่างมีความเชื่อมั่นในตนเอง มองโลกในแง่ดี รู้อะไรควรไม่ควร สำหรับประสบการณ์เฉพาะจะครอบคลุมไปถึงประสบการณ์ร้างแรง เช่น ความผิดหวังที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ การที่คนรักสิ้นชีวิต หรือความเจ็บป่วยอย่างหนัก ความคับแค้นใจอันเนื่องมาจากอยุติธรรมของสังคม สิ่งเหล่านี้ย่อมมีอิทธิพลต่อพัฒนาการของบุคลิกภาพทั้งสิ้น |