บทที่4 เรื่องOutsource

ข้อดีข้อเสียของการ Outsource

  การเลือกใช้บริการเป็นทางหนึ่งที่มีข้อดีข้อเสียที่น่าจะพิจารณา ทั้งนี้เพราะงานทางด้านไอทีเป็นงานที่มีความต่อเนื่อง  งานที่มีการลงทุนสูงและผูกพันกับทุกคนในองค์กร การพัฒนาระบบงานไอที จึงต้องพิจารณาบนพื้นฐานหลายอย่างประกอบกัน

•ข้อดี ของการให้บริษัทที่ให้บริการพัฒนาระบบงานเข้ามาทำ Outsource ระบบงานขององค์กรที่เห็นเด่นชัด ได้แก่

ทางด้านการเงิน

หลีกเลี่ยงการลงทุนจำนวนมาก เพราะการใช้เงื่อนไขข้อตกลงจ่ายค่าบริการตามสภาพของการใช้บริการที่ใช้ซึ่งทรัพยากรบางอย่างไม่ต้องลงทุนเอง
ช่วยให้ระบบการไหลของกระแสเงินสดดีขึ้น เพราะการใช้บริการส่วนใหญ่จ่ายเป็นค่าบริการรายเดือน รายปี หรือการจ่ายตามเงื่อนไข
สามารถปรับแต่งขนาดของระบบ ตามสภาพการใช้งานจึงทำให้ได้ระบบตรงกับสภาพงาน ไม่ลงทุนมากไป ขนาดของการบริการจะตรง ตามสภาพของธุรกิจจริง

ลดขนาดของหน่วยงาน เพราะไม่ต้องลงทุนในเรื่องไอทีเอง ดังนั้นไม่ต้องมีการเตรียมสถานที่เพื่อรองรับงานทางด้านนี้

ทางด้านเทคนิค

การเลือกสรรเทคโนโลยีเป็นเรื่องยุ่งยาก ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกใช้ การลงทุนทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวโยงกับวิสัยทัศน์และการสรรหาเทคโนโลยี
สามารถปรับปรุงเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าได้ง่าย เพราะบริษัทผู้ให้บริการ Outsource จะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นตลอดเวลา
สามารถหาผู้ชำนาญงานทางด้านเทคโนโลยีได้ โดยองค์กรไม่ต้องกังวล เพราะหน่วยงาน Outsource ต้องจัดการหาผู้ชำนาญเอง

ด้านการจัดการ

ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการพัฒนางานทางด้านไอที ทำให้สามารถมุ่งความสนใจในเรื่องการบริหารจัดการมาที่เป้าหมายธุรกิจหลักขององค์กรได้
กระจายการดูแลทางด้านไอทีไปให้กับองค์กรอื่น โดยให้รับผิดชอบแทน

ทางด้านทรัพยากรมนุษย์

การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะทางด้านไอทีง่ายขึ้น เพราะส่วนใหญ่เป็นงานทางด้านการสนับสนุนและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จึงสามารถรวมบุคลากรและจัดการเรื่องทรัพยากรได้ง่ายกว่าการสร้างหน่วยงานไอทีที่มีความซับซ้อน

}ลดปัญหาในเรื่องการแสวงหาบุคลากรที่เป็นผู้ชำนาญทางด้านไอที

และไม่ต้องดูแลหรือมีความกังวลเกี่ยวกับการรักษาบุคลากรให้อยู่กับองค์กร

การจัดฝึกอบรมและการสร้างบุคลากรกระทำได้ง่ายกว่า เพราะเน้นการสร้างบุคลากรที่ไม่ต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้ง

ทางด้านคุณภาพ

สามารถกำหนดระดับการให้บริการได้ชัดเจน
ทำให้การประเมินและตรวจสอบสภาพการทำงานต่าง ๆ ได้ง่าย

ข้อเสีย

◦ด้านการเงิน  ค่าใช้จ่ายโดยรวมสูง
◦ด้านการบริหารจัดการ  ควบคุมดูแลยาก
◦ด้านประสิทธิภาพของระบบ  เปลี่ยนแปลง requirements ยาก
◦ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์   ก่อให้เกิดการยุบหน่วยงาน ลดจำนวนพนักงานทำให้พนักงานเกิดความกังวลใจ
◦ด้านข้อมูล  เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล

ลักษณะของการ Outsource ในปัจจุบัน

ความต้องการในการใช้งานทางด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมีความหลากหลาย เช่น การตั้งเว็บไซด์ให้กับองค์กร  การบริหารเซิร์ฟเวอร์  การทำระบบบริการลูกค้า เช่น ระบบ call center  การทำระบบออนไลน์ในรูปแบบ e-Service ต่าง ๆ
ดังนั้นจึงมีการดำเนินการโดย บริษัทหรือองค์กรที่ให้บริการ Outsource ที่จะดูแลฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เซิร์ฟเวอร์ และสถานีบริการต่าง ๆ ให้ทั้งหมด โดยรวมถึงระบบเครือข่ายด้วย โดยองค์กรเป็นผู้ใช้งาน การพัฒนาระบบงานและการดูแลระบบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์กระทำโดยหน่วยงาน Outsource  โครงสร้างของการบริการจึงมีรูปแบบเป็นการเชื่อมโยงผ่านทางเครือข่าย

จุดเริ่มต้นของการให้บริการ Outsourcing

เกิดจากการให้บริการซ่อมบำรุงให้แก่บริษัทในเครือ เพื่อประหยัดค่าใช่จ่ายจึงซ่อมเอง โดยช่วงแรกช่วยให้ประหยัดได้ถึง 80 % เช่นค่าขนส่ง ค่าซ่อม ภาษี และลดเวลาซ่อมลงหลายเดือน ทำให้ไม่ต้องเก็บอะไหล่สำรองไว้โดยไม่จำเป็น หลังจากซ่อมจนชำนาญแล้วจึงขยายตัวไปยังบริษัทอื่น ๆ

จุดขายของสามารถคอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส

การไปซ่อมต่างประเทศเสียค่าใช้จ่ายสูง  ซ่อมเองจะต่ำกว่า อย่างเช่นการซ่อมอุปกรณ์ 1 ตัวรวมค่าอะไหล่ ค่าขนส่ง ค่าภาษี ประมาณ 100 ล้านบาท แต่ซ่อมเองเสียเพียง  20 ล้านบาทเท่านั้น นอกจากนี้การซ่อมในต่างประเทศต้องใช้เวลาถึง 8 เดือนขึ้นไป  นอกจากนี้การซ่อมการันตี 3 เดือนยกเว้นอุบัติเหตุ

งานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน  แบ่งการให้บริการเป็น  3 ระดับ คือ

     1. การออกแบบและจัดหารูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานขององค์กรครอบคลุมเครือข่าย

         แบบต่าง ๆ

     2. ดำเนินการบริหารจัดการเครือข่าย

     3. ดำเนินการหาบริการเสริมและรูปแบบการใช้งานเฉพาะด้าน

     นอกจากนี้ยังมีการขาย Total Solution จะเข้าไปเซอร์วิสให้ด้วย

ต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียของการ Outsource
ต้องบริหารเรื่องสัญญา
การทำเองต้องบริหาร คน  เวลาและทรัพยากร  โดยส่วนใหญ่ถ้ามีเงินลงทุนมากเน้นการจ้างจะดีกว่าใช้คนขององค์กรทำ  เพราะจะเสียเวลาและงานประจำ
ก่อนจ้างจะต้องกำหนด  Requirement  ให้ชัดเจนก่อนจ้าง   ก่อนจ้างผู้ว่าจ้างมีอำนาจต่อรองมาก

วิธีการจ่ายเงิน  มีดังนี้

  1.   Fixed price contract

  2.   Time and materials contract

  3.   Fixed price per delivered unit contract

website templates.